3.09.2560

ผู้หญิงคนเดียว แบกเป้เที่ยวเกาะเต่า ชิคๆ

สวัสดีค่ะทุกคน

ไปเที่ยวกลับมาอีกแล้ว อิอิ บล็อค"เที่ยวไทย"ไม่ค่อยได้อัพสักเท่าไหร่ สำหรับทริปนี้เราไปเที่ยวเกาะเต่ามาค่ะ จริงๆอยากไปมานานแล้ว อยากไปดูจุดชมวิวที่"เกาะนางยวน" เห็นบนปกนิตยสาร ดูสวยดี
แต่ด้วยความที่รู้สึกว่า"ไกล" (ทีสิงคโปร์/มาเล ทำไมไปได้ ฮ่าๆ) ต้องนั่งรถต่อเรือนู่นนี่ เลยไม่ได้ไปสักที

ประจวบกับมีวันหยุดยาว 5 วันพอดี เลยอยาก"นั่งรถไฟ"ไปไหนสักที่ หวยเลยไปออกที่"เกาะเต่า"ค่ะ
เดือนมีนา เข้าหน้าร้อนพอดี อ่านรีวิวนี้เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆลองไปเที่ยวเกาะเต่ากันนะคะ

เกาะเต่า อยู่ในส่วนของ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ สามารถเดินทางได้หลายทางเลยทั้งเครื่องบิน/รถไฟ/รถทัวร์ มีหลายบริษัทให้บริการนั่งรถต่อเรือ รวมถึงสายการบินที่ให้ความสะดวกในการรับ-ส่งถึงท่าเรือ สามารถเลือกวิธีเดินทางได้ตามใจชอบค่ะ ^^

**เดินทางเมื่อ 6-9 มีนาคม 2560

โอเค! เราจะนั่งรถไฟ และต่อ"เรือนอน"ไปเกาะเต่า ^^


ที่หาข้อมูลมา เห็นนั่งรถไฟฟรีไปลงชุมพรกันแต่ก็เลทมั่งอะไรมั่งไม่ทันเรือนอนมั่ง
*รถไฟฟรี ขบวน 171 ออกจากหัวลำโพง 13.00 น. จะไปถึงชุมพรตามตาราง 21.21 น.
แต่ก็มีเลทบ้างอะไรบ้าง เนื่องจากเรือนอนออกห้าทุ่มตรง มีรอบเดียว ก็เลยไม่เสี่ยงดีกว่า บวกกับเราไม่สบาย เป็นไข้หวัดใหญ่มาสิบกว่าวันแล้ว (กำลังจะหาย) เลยไม่อยากนั่งรถไฟฟรีทรมานตัวเองเท่าไหร่

เลยเลือกใช้บริการรถไฟด่วยพิเศษ สปริ้นเตอร์ เป็นแบบนั่งปรับอากาศ (เคยนั่งครั้งแรกตอนไปหัวหินค่ะ แล้วก็เลทเป็นชั่วโมงเลย ฮ่าๆ )

เราไปซื้อตั๋วล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทางค่ะ เป็นขบวนที่ 43 กทม. - สุราษฎร์ แต่เราลงที่ชุมพร
ค่าโดยสารคนละ 510 บาทค่ะ


หลังจากได้ตั๋วมาแล้วก็รอวันเดินทางค่ะ แต่ก่อนเดินทาง 1 วัน ก็มีข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย หายไปจากเกาะเต่า สองอาทิตย์แล้วค่ะ !! >< แง๊!! กำลังจะไปเที่ยว ทำไมต้องมีข่าวแบบนี้ (ตอนจะไปมาเล ก็มีกระทู้ถูกทำร้ายร่างกายที่อิโปร์ ประเทศมาเลเซียค่ะ ตอนนั้นก็เครียดอยู่ จะไปดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ไปเพราะเสียดายค่าตั๋วค่ะ ฮ่าๆ
รีวิว บินเดี่ยวเที่ยวมาเลเซีย คลิกที่นี่ >> http://journeyofarrow.blogspot.com/2017/02/kl-part-1-lets-go-to-kl.html)

เอาล่ะค่ะ เริ่มออกเดินทางกันดีกว่า
#DAY 1
รถไฟออกเแปดโมง นั่ง MRT มาถึงตอนเจ็ดโมงค่ะ แล้วก็นั่งกินหมูทอด รอเวลา รถไฟมาจอดรอตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งแล้วค่ะ วันนี้ไม่เลท ^^


จะมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีชมพูคอยให้บริการอยู่ ของเรานั่งโบกี้ที่1 เดินเข้ามาแล้ว สะอาด แอร์เย็นค่ะ


ล้อหมุน ฉึกกะฉัก ปู๊นนน ขอให้หนูปลอดภัย, Have a safe trip ^^
ฝรั่ง 4 คนนั่งแถวหน้าเรา มาด้วยกัน เค้าก็ลงชุมพรเหมือนกันค่ะ


ออกมาได้สักพักก็ถึงช่วงแฮปปี้ไทม์ กิน กิน และกินค่ะ มีเจ้าหน้าที่บริการน้ำกับขนมค่ะ น้ำเลือกได้เลย
มีชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำอัดลมค่ะ


ถามว่าทำไม ไม่ถ่ายวิวข้างหน้าต่าง คือกระจกฝุ่นเต็มเลยค่ะ มองไม่เห็นเลย >< ก็เลยไม่ได้ถ่าย
นั่งมาเรื่อยๆถึงเพชรบุรีก็ เริ่มเสิร์ฟอาหารค่ะ สำหรับรถไฟแบบนี้ จะมีบริการรับซื้อของฝากด้วยค่ะ พวกขนมหม้อแกง บ้าบิ่น (หมายถึงขนมนะคะ ไม่ใช่เรา ฮ่าๆ) สามารถสั่งกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เค้าจะเดินถาม แล้วเราจ่ายตังค์ แล้วพอถึงสถานีหน้าๆ ก็จะรับของขึ้นมาเอามาให้เราค่ะ #แต่เราไม่ได้ซื้อ ><

อาหารมื้อเที่ยงของเราวันนี้


สำหรับห้องน้ำ สะอาดดีค่ะ มีทั้งแบบชักโครกแล้วก็แบบนั่ง มีก๊อกน้ำ อ่างล่างมือ มีสายชำระด้วยค่ะ
น้ำไหลแรงและอุ่น (หรือข้างนอกแดดร้อนเลยทำให้น้ำอุ่น อิอิ) แล้ว 14.45 น. เราก็มาถึงชุมพรค่ะ

สวัสดี..ชุมพร เพิ่งเคยมาครั้งแรกค่ะ ^^


แบตโทรศัพท์ก็ใกล้จะหมด บวกกับหิวข้าวเลยจะไปหาข้าวกินค่ะ ก่อนเดินออกจากสถานีก็ซื้อตั๋วขากลับไว้ก่อน กลับวันที่ 9 ค่ะ เป็นขวน 40 ออกจากชุมพร 12:46 น. มาถึงกรุงเทพ 19.45 น. ค่ะ

เดินตรงออกไปจากสถานีรถไฟ เรื่อยจะเจอสี่แยก เดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอห้างโอเชี่ยนมอล์ค่ะ เราเข้าไปกิน KFC ในห้าง เป็นห้างไม่ใหญ่มากประมาณห้างโวคที่กระบี่ค่ะ ระหว่างนี้ก็โทร.ไปที่ท่าเรือค่ะ
เรือออกห้าทุ่ม ค่าเรือคนละ 400 บาท ขึ้นเรือได้ตอน 3 ทุ่ม ต้องรอไปอีกค่ะ แต่แบตกำลังจะหมดเลยหาที่สิงสถิต เลยเดินไป SalSa Hostel อยู่ใกล้ๆกับห้างโอเชี่ยน จะไปขอ day use ค่ะ เดี๋ยวสามทุ่มค่อยเดินไปสถานีรถไฟ นั่งวินไปท่าเรือ แต่เค้าบอกไม่ได้ค่ะ มีลูกค้าจะมาเช็คอิน เราก็เลยขอนั่งเล่นกับชาร์จแบตโทรศัพท์ แต่ยังไม่มีตั๋วเลย ก็เลยซื้อกับที่นี่เลย 450 บาทรวมรถรับส่งที่ท่าเรือ เราขออาบน้ำด้วย คิด 20 บาท ค่ะ ไม่คิดค่านั่งเล่นด้วย ดีจัง^^ จ่ายไป 470 บาทค่ะ แล้วก็รอสามทุ่มจะมีคนมารับไปส่งที่ท่าเรือ


ขึ้นไปด้านบน มีโซฟาให้นั่งเล่น


มีคู่มือเที่ยวเกาะเต่าให้อ่านด้วย เล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่มค่ะ สีทั้งเล่ม กระดาษถนอมสายตา เล็กกะทัดรัด
เบามือ ^^



ค่ำแล้วก็ไปอาบน้ำค่ะแล้วออกมาหาข้าวเย็นทาน
ตรงนี่หน้าห้างโอเชี่ยนค่ะ


ทานเสร็จก็เดินกลับมาที่โฮสเทล สามทุ่มก็มีรถมารับไปส่งที่ท่าเรือค่ะ
นั่งรถมาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงวันนี้วันจันทร์ค่ะ จะเป็นของเกาะเจริญ เพิ่งสามทุ่มกว่าๆ คนน้อยจัง ><
แถวนี้ไม่มีของขายนะคะ ถ้าอยากทานขนม น้ำให้ซื้อมาตุนไว้เองด้วย

*ถ้านั่งรถไฟฟรีมา ก็สามารถนั่งวินไปที่ท่าเรือได้ค่ะ จากการสอบถามพี่วิน เค้าบอกว่าช่วงนี้ไม่เลท ก็มาทันเรือนอนกันอยู่ ค่าวินจากสถานีรถไฟไปท่าเรือ 100 บาทค่ะ


แล้วก็ไปแลกตั๋วค่ะ ได้ตั๋วมาแล้ว
ท่าเรือเกาะเจริญ ชุมพร - เกาะเต่า ออกทุกวันจันทร์- พุธ- ศุกร์ค่ะ
ออก 23.00 น. ไปถึงเกาะเต่าประมาณตี5

นั่งเรือนอน เอ๊ะ!ไม่สิ นอนเรือนอน ครั้งแรกในชีวิต ><


นั่งรอสักพักก็เรียกขึ้นเรือค่ะ เดินตามเค้าไป


เข้ามาด้านในแล้ว ถอดรองเท้าไว้นอกห้องนะคะ แล้วก็ห้ามทานอาหาร-เครื่องดื่ม และสูบบุหรี่ภายในห้องโดยสาร  แต่สามารถทานอาหาร/สูบบุหรี่ข้างนอกได้

เข้ามาแล้วแถ่แด๊น !! แอร์เย็นค่ะ สะอาด มีกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ เตียงจะแคบหน่อยนะคะ


บนหัวเตียงจะมีปลั๊กไฟให้แบบนี้ค่ะ แต่ถ้าใครได้เตียงตรงกลาง ตรงทางเดินจะไม่มีปลั๊กให้ค่ะ ><
เราเลยไปฝากชาร์จแบตกับคนที่อยู่เตียงข้างๆ

"พักแถวไหนคะ?"
"อ๋อ โฮสเทลแถวๆท่าเรือค่ะ"
"มาเที่ยวคนเดียวเหรอคะ?"
"อ๋อ ค่ะ"
"เก่งจังเลย...มาเที่ยวคนเดียว (ยิ้ม)
แฮ่! (#ยิ้มแห้ง >< #โอยย หนูกลัวจะแย่ จะรอดมั้ยทริปเน้ ><)


พอใกล้ๆห้าทุ่ม คนจะเริ่มทยอยมาค่ะ ไม่ต้องกลัว เพื่อนเยอะแยะ มีฝรั่งด้วยค่ะ ฮี่ๆๆ พอเรือออก เค้าก็จะปิดไฟให้เรานอนค่ะ # เกาะเต่า see you tomorrow .. ^^

#DAY2

นอนมาเรื่อยๆ เรือนอนสบายนะคะ ไม่โคลงเคลง บวกกับความเพลียก็หลับได้อยู่ เรือมาจอดเทียบท่าเรือตอนตี 5 โอ้ว ฟ้ายังไม่ทันจะสาง เราก็มาถึงเกาะเต่ากันแล้วค่ะ คุณผู้ชม!! มืดไปอี๊ก ><


ยังมืดอยู่ ไม่กล้าเดินไปไหนไกล เลยไปตั้งหลักที่หน้า 7-11 อย่างน้อยก็มีพนักงานกับกล้องวงจรปิด
อุ่นใจค่ะ นั่งฟังเพลงอยู่หน้าเซเว่น จนตีห้าครึ่งมีรถมาส่งของ เราเลยต้องมูฟตัวเองมาอยู่ฝั่งตรงข้าม
เจอคนไทยสองคน ถามว่าเรารอรถรีสอร์ทมารับรึเปล่า? เราบอกว่าไม่ใช่ค่า ><


หกโมงครึ่งฟ้าเริ่มสาง ไปเดินสำรวจโลกดีกว่า  เช้านี้ยังเงียบสนิท ร้านต่างๆยังไม่เปิด
ก็เลยเดินไปหาดทรายรี ไม่ไกลเท่าไหร่ ในรีวิวบอกว่าเดินประมาณ 10 นาทีค่ะ


เดินผ่านหน้าโฮสเทลของเรา เราพักที่ Koh Tao Central Hostel ค่ะ ทำเลดีมาก ใกล้ท่าเรือ
เป็นห้องรวมค่ะ ที่ชอบคือมีผนังกั้นแต่ละเตียง ทำให้รู้สึกส่วนตัวหน่อย เช็คอินได้ตอนเที่ยงค่ะ
แต่เช็คเอาท์ประมาณ 8.45 น. เดี๋ยวค่อยเดินกลับมา ค่อยถามเค้าว่าขอเช็คอินก่อนได้มั้ย เพราะเพลีย และอยากอาบน้ำมากค่ะ >< จองผ่าน booking.com ค่ะ ราคา 342 บาท (แต่ตอนจ่ายจริงเค้าคิดแค่ 340 บาทค่ะ เราถามว่ายูลดราคาเหรอ? เค้าบอกว่ามันคิดง่ายดี ^^ )


เดินตามทางไปเรื่อยเป็นถนนคอนกรีตค่ะ แต่ทางชันมาก!
หนักเป้ด้วย แถมเดินขึ้นๆลงๆ - -" แล้วก็พยายามหาทางลงชายหาดค่ะ


เดินลงมาจากถนนใหญ่แล้ว เดินจริงๆ เกือบ 15 นาทีแน่ะ รู้สึกว่าทำไมไกลจัง ><
หาดทรายรีตอนเช้าค่ะ เงียบสงบ ถ้าจะไปเกาะนางยวนหรือทัวร์รอบเกาะก็ติดต่อ Taxi Boat ได้ค่ะ
ตกลงราคากันเอง เรานั่งพักเหนื่อยที่ชิงช้าตรงนี้ ^^


"ฮัลโหล...เกาะเต่า" ^^


เดินเล่นแถวนี้ เกือบแปดโมงก็เดินกลับไปที่โฮสเทลค่ะ เคาท์เตอร์เช็คอินจะอยู่เอเจนท์ขายตั๋ว ข้างๆกับโฮสเทลค่ะ พอแปดโมงครึ่งมีฝรั่งขับมอไซค์มาเปิดประตู เราถามเค้าว่า เป็นเจ้าของโฮสเทลใช่มั้ย?  เค้าบอกว่า"ใช่" แต่ยังไม่ให้เช็คอินค่ะ ต้องรอ เค้าบอกว่าประมาณ10 โมงน่าจะมีคนเช็คเอาท์ออกไปเกาะนางยวน ให้รอก่อน ก็เลยชวนมากินกาแฟที่ Reef bar ฝั่งตรงข้าม แต่เราไม่กินกาแฟค่ะ เค้าเลยเลี้ยงเป็นชาร้อน ฮี่ๆๆ เค้าเป็นคนเนเธอแลนด์ค่ะ มาอยู่ที่นี่ได้เจ็ดปีแล้ว เราถามว่าเกาะเต่าอันตรายมั้ย สำหรับเค้า เค้าบอกว่าไม่อันตรายค่ะ ถามว่าพูดไทยได้มั้ย เค้าก็เข้าใจบ้างเป็นคำๆค่ะ เช่น อาบน้ำ/นอน /ห้าโมงเย็น
เค้าก็บอกว่าภาษาไทยมีหลายเสียง ส่วนที่เกาะเต่า ภาษาไทยไม่จำเป็นสำหรับเค้าสักเท่าไหร่ เพราะมีแต่ฝรั่งมาเที่ยว ฮ่าๆ


ทานเสร็จก็กลับมาที่เอเจนท์ขายตั๋วข้างๆ เคาท์เตอร์เช็คอินของโฮสเทลแบ่งพื้นที่เล็กๆกับบริษัทเอเจนท์ขายตั๋วข้างๆโฮสเทลค่ะ เราก็นั่งรอไป มีน้องหมามาเล่นด้วย ชื่อ "เปเลซ" เจ้าของโฮสเทลบอกว่าเปเลซชอบ"นวด" เราก็เลยนวดให้เปเลซค่ะ #เปเลซน่ารัก


เก้าโมงครึ่ง เจ้าของโฮสเทลก็ให้เข้าเช็คอินได้ ก็พามาส่งที่ห้องค่ะ ที่นี่เปิดแอร์ 24 ชั่วโมงค่ะ แล้วก็มีกล้องวงจรปิดในห้องด้วย ดูปลอดภัยดีค่ะ จากนั้นเราก็เก็บของ อาบน้ำ สิบโมงกว่าๆก็ออกมาข้างนอก
ไปหาข้าวทานค่ะ ทริปนี้เราไม่ดำน้ำนะคะ ไม่ใช่สายนี้ ฮ่าๆ ไฮไลท์ของทริปนี้คือจุดชมวิวเกาะนางยวนค่ะ
สำหรับใครจะไปดำน้ำ ติดต่อเอเจนท์หรือโฮสเทลที่พักของตัวเองได้เลยค่ะ เดี๋ยวเค้าจะแนะนำเราเอง

**ปกติเราเป็นสายแว๊นนะคะ ชอบขับมอไซค์เที่ยว แต่ทริปนี้ขอบายเลย เพราะทางชันมาก กลัวรถล้ม
ใน Guide book : Koh Tao complete guide ยังบอกเลยว่าบางเส้นทางนี้ต้องขับรถแข็งจริงๆ ><
แต่ฝรั่งก็เก่งมากเลยนะคะ เห็นขับกันว่อนเลย ก็ทั้งสะดวกและถูกกว่าTaxiบนเกาะค่ะ
ใครจะเช่ามอไซค์ก็เตรียมเงินมัดจำมาเยอะๆนะคะ เห็นว่าหลายพันอยู่ แต่บางร้านก็ไม่มีค่ามัดจำ อันนี้ก็ต้องตกลงกับทางร้านเองค่ะ ^^

ออกมาแล้ว พอแดดออก ทะเลสวยเชียวค่ะ น้ำใสมากกกก
เดินออกมาตรงชายหาดตรงท่าเรือค่ะ มีรูปปั้นน้องเต่าด้วย ส่วนเกาะที่เห็นไกลๆ คือเกาะนางยวนค่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปค่ะ


เดินเลียบหาดไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปเจอป้ายทางลัดไปหาดทรายรีค่ะ เอ้อ เราก็ว่าอยู่ มันต้องมีทางเดินเลียบหาดสิ ที่ไม่ใช่ถนนใหญ่แบบที่เราเดินไปเมื่อเช้า - -"


เดินตามป้ายมาแล้วค่ะ จะเป็นทางเล็กๆ มีแต่ฝรั่ง ฝรั่งและฝรั่งค่ะเกาะนี้ ><
เดินผ่านร้านขายของที่ระลึกมีโปสการ์ดขายด้วย จัดมาสองใบค่ะรูปหาดทรายรีตอนพระอาทิตย์ตก แล้วก็รูปตรงจุดชมวิวเกาะนางยวน


ก่อนเดินลงไปที่ชายหาดก็เลยหาข้าวทานก่อนค่ะ ชื่อร้าน ดีดีฮัท เป็นบังกะโลเห็นวิวทะเลแล้วก็มีร้านอาหารด้วยค่ะ เห็นเมนูหน้าร้านมีอาหารไทยขาย ก็เลยเลือกร้านนี้ค่ะ

เมนูเป็นภาษาอังกฤษค่ะ *O*


ของเราสั่งเป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วง ข้าวเปล่าแล้วก็โค้กกระป๋องค่ะ (100+25+20 มื้อนี้ 145 บาทค่ะ )
เห็นอย่างงี้ ได้เยอะเหมือนกันนะคะ เราทานข้าวไม่หมดด้วย อิ่มแปล้ >< ร้านนี้อร่อยค่ะ ^^b


ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นที่ชายหาดค่ะ เที่ยงกว่าแดดแรงมาก >< ของเรานี่ใส่ทั้งหมวก ทั้งแว่นตาดำ เอาเสื้อแขนยาวไปคลุมอีก มองมารู้เลยว่าเราเป็นคนไทย ชัวร์!!!! ฮ่าๆๆ

ฝรั่งเตรียมผ้ามาปูนอนอาบแดด เราไม่มีผ้ามาปู ไม่รู้จะไปนั่งตรงไหน นั่งชิงช้าตรงนี้ละกัน
นั่งโล้ชิงช้า แล้วฟังเพลง I'm yours ของ Jason Mraz โอ๊ยยย!!  ฟินไปอี๊ก ><
ลมพัดตลอดเลยค่ะตรงนี้^^


ถ้าสาวๆมาเที่ยวที่นี่ พกบิกินี่มาเลยนะคะ ใส่ได้สบายมาก ไม่ต้องเขินอาย เค้าใส่กันเยอะแยะ
ยกเว้นเรา ฮ่าๆ


ฝรั่งเต็มเลย เราเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยคนเดียวบนหาดนี้ค่ะ #เรามั่นใจ ><
น้ำทะเลสีสวยมาก


โปสการ์ดที่ซื้อมาเมื่อกี๊ พรุ่งนี้จะไปดูวิวนี้ที่เกาะนางยวนค่ะ ^^


นั่งตรงอยู่ตรงนี้เกือบชั่วโมง เริ่มร้อนแล้ว ก็เลยเดินไปหาอะไรเย็นๆทานได้น้ำแอปเปิ้ลปั่นมาแก้วนึงค่ะ


เดินไปเรื่อยๆไปเจอทางลง Lotus Bar ค่ะเป็นบาร์ทีมีต้นมะพร้าวยื่นออกไปในทะเล

วันนี้ฟ้าใสดีจัง ^^


เดินลงมาแล้ว นี่ไงต้นมะพร้าวหน้า Lotus Bar


แดดร้อนมาก ไม่ไหวแล้ว ก็เลยกลับโฮสเทลไปพักก่อน เดี๋ยวตอนเย็นค่อยออกมาใหม่ค่ะ
จะมาชมพระอาทิตย์ตกที่หาดทรายรี กลับไปที่โฮสเทล ก็ฟังเพลง+เขียนไดอารี่ แล้วเจ้าของโฮสเทลก็พาลูกค้ามาส่ง บอกเราว่า คนนี้"พูดไทยได้" เราหันไปเป็นผู้ชายเอเชีย แต่คุยกับเจ้าของโฮสเทลเป็นภาษาอังกฤษ (ก็แหงล่ะ เค้าเป็นคนเนเธอแลนด์ พูดไทยไม่ได้) ส่งลูกค้าเสร็จ
ก่อนเค้าเดินออกไป ก็ถามเราว่า
"หนอน"
เราทำหน้างง?? (What?? - -"a)
"หนอน"
อ๋อ ...นอน (ฮ่าๆๆ) ใช่ๆ ไอนอน ข้างนอกร้อนมาก เดี๋ยวค่อยออกไปใหม่ค่า ^^

แล้วรูมเมทที่มาใหม่ก็ชวนเราคุย เราบอกว่าเป็นคนไทย เค้าเหมือนพูดไทยไม่ชัด ได้ความว่าพ่อแม่เป็นคนไทย แต่เกิดที่ลอนดอน มาจากลอนดอนแล้วก็มาเที่ยวเมืองไทยไรงี้ ก็พูดไทยได้นิดหน่อย
ทักทายกันเสร็จเค้าก็ออกไปข้างนอก ส่วนเราก็นอนอยู่โฮสเทล แล้วก็ออกมาเกือบห้าโมงเย็น
ไปถามเรื่องเรือไปเกาะนางยวนกับเอเจนท์ข้างๆโฮสเทล เค้าบอกว่าต้องไปซื้อตั๋วที่เรือลมพระยา
แล้วก็เลยซื้อตั๋วเรือนอนกลับชุมพรที่นี่เลย โดนไป 500 บาท - -" จ่ายตังต์แล้วให้มารับตั๋วพรุ่งนี้

เดินไปที่ท่าเรือลมพระยา ถามตั๋วเรือไปเกาะนางยวน
ถ้าใครจะข้ามไปเกาะสมุย-เกาะพะงัน ก็มาซื้อตั๋วเรือที่นี่ได้ค่ะ
สำหรับเกาะนางยวนนั้น คนไทย ราคาคนละ 230 บาทรวมค่าเข้าเกาะแล้ว
เรือมีรอบเดียว 10.30 น. ขากลับมีสองรอบ คือ 13.30 น. กับ 16.30 น. ค่ะ
ชาวต่างชาติจะ 300 บาทค่ะ รวมค่าเข้าเกาะแล้ว อันนี้ของลมพระยานะคะ
ถ้าไป Taxi boat ต้องต่อรองราคาดีๆ บางคนก็ 300/400/500 บาท แล้วแต่ว่ามีคนแชร์เรือไปด้วยรึเปล่า


ได้ข้อมูลแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่หาดทรายรีค่ะ แดดเริ่มอ่อนลงแล้ว


เดินมาเรื่อยๆจะเป็นบริเวณที่เรียกว่า ลานหินจปร.ค่ะ จะมีอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 5 อยู่ตรงนี้
ตรงนี้จะมีม้านั่งค่ะ ก็เลยเดินไปซื้อขนมที่เซเว่นมากิน เจอแหม่มฝรั่งเดินผ่านมาก็เลยชวนเค้าคุยค่ะ มาจากสก็อตแลนด์ ^^


เริ่มเย็นแล้ว พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว


แล้วพระอาทิตย์ก็ลาลับไป ผ่านไปอีก 1 วัน : )


หาดทรายรีตอนเย็นๆค่ะ เริ่มมีเสียงเพลงจากบาร์ต่างๆแล้ว ใครสายตื๊ดก็มานั่งบาร์ที่หาดนี้ได้ค่ะ
มีหลายร้านเลย แต่เราขอบายค่ะ >< มาคนเดียว ต้องเพลย์เซฟ เดี๋ยวไปหาข้าวกินแล้วก็กลับห้องค่ะ


"สุดท้ายก็....ว่างเปล่า"


เราอยู่ที่นี่จนมืดค่ะ ร้านต่างๆเริ่มเปิดไฟแล้ว


จากนั้นก็เดินกลับทางเดิมค่ะ ร้านอาหารก็เปิดไฟ ที่นี่เท่าที่สังเกตตามร้านอาหาร หน้ารีสอร์ท ท่าเรือจะมีกล้องวงจรปิดค่ะ แทบทุกที่เลยค่ะ ^^ เดินกลับมากินข้าวร้านแถวๆท่าเรือ เป็นผัดไทกุ้งค่ะกับโค้ก มื้อนี้ 100 บาท เสร็็จแล้วก็กลับห้อง พักผ่อนค่ะ เขียนไดอารี่แล้วก็นอน พรุ่งนี้จะได้ไปเกาะนางยวนแล้ว เย่! ^^

#DAY3

มาถึงวันที่ 3 ของการเดินทาง เช้านี้เราจะได้ไปเกาะนางยวนแล้ว ตื่นมาตอนเช้าไปหาข้าวกินก่อนเลยค่ะ 
เดินไปแถวเซเว่น มีข้าวเหนียวไก่ทอดขาย ก็เลยได้ทานเป็นมื้อเช้า ปีก2 ข้าวเหนียว 1 ถุง มื้อนี้โดนไป 60 บาทค่ะ ซื้อแล้วก็ไปนั่งทานริมหาด แถวๆท่าเรือ จากนั้นก็มาเก็บของ เช็คเอาท์ เตรียมตัวออกไปท่าเรือตอน 10 โมง เช็คเอาท์ฝากกระเป๋าไว้ วันนี้สตาฟเป็นฝรั่งอีกคนนึงค่ะ ไม่ใช่เจ้าของโฮสเทล
เราบอกเธอว่าเดี๋ยวจะกลับมาตอนเย็น ขออาบน้ำได้มั้ย? เธอบอกว่าได้ แต่ต้องมาก่อนห้าโมงเย็นค่ะ 
เพราะเอเจนท์ที่ขายตั๋วเค้าก็ปิดห้าโมงเย็น เหมือนกัน ตรงนี้ก็ล็อคประตู จะไม่มีใครอยู่แล้ว
จากนั้นก็เดินมาซื้อตั๋วที่ท่าเรือลมพระยาค่ะ ตอนนี้เรือเพิ่งมาเทียบท่า ฝรั่งเต็มเลย น้าๆที่นี่ก็ตะโกน Taxi!! Taxi This way! ทรายรีบีช,ทรายรีบีช 



เรือเรารอบ 10 โมงครึ่งค่ะ เป้เรือใหญ่ ไม่ใช่เรือหางยาว ค่าตั๋วคนไทย 230 บาท รวมค่าเข้าเกาะแล้ว
เวลากลับมี 2 เวลา คือบ่านโมงครึ่งกับสี่โมงครึ่งค่ะ ไหนๆมาแล้ว เราก็ว่าจะอยู่ถึงสี่โมงครึ่งเลย

เรือออกแล้วมีผู้โดยสารแค่เราคนเดียวค่ะ ฮ่าๆๆ เหมาลำไปค่ะ 



เรือออกมาแล้ว ค่ะเริ่มเข้าใกล้เกาะนางยวนแล้ว ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็มาเทียบท่า



ถึงแล้วค่ะ เดินขึ้นจากเรือมาเลย ขากลับก็มาขึ้นตรงนี้ เรือจะจอดรอเราอยู่ตรงนี้ค่ะ 
ตรงซุ้มด้านหน้า เจ้าหน้าที่จะคอยตรวจว่าพกขวดน้ำมารึเปล่า ถ้ามีก็ต้องทิ้งค่ะ เป็นกฎของที่นี่





มาเที่ยวเกาะเต่า-เกาะนางยวน ไม่ค่อยมีภาษาไทยนะคะ 
นี่ภาษาอะไร ใครรู้บ้าง แปลว่าอะไรเอ่ย?



ผ่านจุดตรวจค้น ก็จะเจอกับป้ายนี้ เย่! ในที่สุดก็ได้มาสักที ^^



เลี้ยวซ้ายตามแนวสะพานไม้ไปเลยค่ะ 



วิวเกาะฝั่งนู้น ด้านบนจะเป็นจุดชมวิวค่ะ



เดินมาเรื่อยๆก็จะเป็นลานปูนกว้างค่ะ มีร้านอาหาร ถัดไปก็จะเป็นชายหาด สันทรายที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา
เหมือนกับทะเลแหวกที่กระบี่ค่ะ ตรงชายหาดจะมีเตียงผ้าใบให้พักผ่อน 

เดินผ่านถังออกซิเจน

"โดดเดี่ยว..แต่ไม่เดียวดาย"

เหมือนเรา..ที่มาเที่ยวคนเดียวแต่ไม่เหงานะคะ ได้คุยกับคนนั้นคนนี้
เมื่อเช้าก็ได้คุยกับคนสวิสเซอร์แลนด์
เค้าบอกว่ามาเที่ยวเกาะนางยวนเมื่อวาน มาสน็อคเกิ้ลลิ่ง เปิดเสื้อให้ดูด้วยค่ะ หลังเค้านี่ไหม้เลย *O* แดดแรงจริงอะไรจริง
เพื่อนร่วมทางเยอะแยะ นักท่องเที่ยวเต็มชายหาด ^^


จากนั้นก็เดินผ่านชายหาดตรงนี้ไปจุดชมวิวของเกาะกันค่ะ


เดินไปตามสะพานไม้ เด็กน้อยฝรั่งกำลังเล่นน้ำค่ะ น้ำใสม๊าก ><


ฝั่งตรงข้าม จะเป็นท่าเรือที่เราเดินมา


เดินมาเรื่อยๆก็สวนกันกับรูมเมทเราที่มาจากลอนดอน ก็เลยขอให้เค้าถ่ายรูปให้หน่อย เค้าเพิ่งลงมาจากจุดชมวิวค่ะ เค้าถามว่าเราเสียค่าเรือเท่าไหร่ ของเค้าโดนไป 500 บาทแน่ะ !! ถ่ายให้เราเสร็จ เค้าก็ขอให้เราถ่ายให้เค้ามั่งค่ะ แล้วก็ See you บ๊ายบาย ค่อยเจอกัน

ทางขึ้นจุดชมวิวจะอยู่ขวามือค่ะ แต่ยังไม่ขึ้นไป ยังมีสะพานไปข้างนี้อีกเลยเดินไปต่อ

มีภาษาอะไรมั่ง


เดินมาจนสุด สะพานพังค่ะ!


มองหันหลังกลับไปที่เราเดินผ่านมา


Now I'm here "Koh Nang Yuan" ^^


จากนั้นก็เดินย้อนกลับมา ขึ้นไปจุดชมวิวกันค่ะ ตามฝรั่งสองคนนั้นไปเลยค่ะ


มีป้ายเตือนด้วย รักษาความสะอาดนะคะ ^^


ทางขึ้นชันมาก แต่เป็นบันไดปูน เดินง่ายค่ะ  แต่แคบมีคนเดินสวนขึ้น-ลง ตลอด


เดินมาไม่ถึง 5 นาทีก็เจอป้ายนี้ค่ะ เจอคนไทยด้วย ถามว่าขึ้นมาคนเดียวเหรอครับ? เค้าบอกว่าข้างบนคนไม่เยอะ กำลังดีเลย  ระหว่างทางจะเป็นป่าๆค่ะ ของเราโดนยุงกัดตลอดทาง ยุงตัวใหญ่ด้วย ><
สำหรับใครที่ผ่านการปีนภูกระดีงมา ทางนี้ถือว่าจิ๊บๆค่ะ ^^


บอกว่า ห้ามปีนขึ้นไปบนก้อนหินก้อนบนสุดค่ะ อันตราย><


จากตรงนี้ขึ้นไปอีกนิดนึง ก็จะถึงกองก้อนหินขนาดใหญ่  เราต้องปีนก้อนหินขึ้นไปเองนะคะ
ถ้าใครตัวเล็กอาจจะต้องให้เพื่อนช่วยดึงจากข้างบน ของเราก็ล้มลุกคลุกคลานนิดนึง
ไม่รู้จะเอาขาไหนขึ้นก่อน ><

แหงนหน้าขึ้นไปก็มีคนปีนอยู่นะคะ ตรงก้อนหินอันบนสุด เพราะตรงนั้นวิวจะสวยสุด ><


ปีนขึ้นมาแล้วค่ะ^^ และแล้วในที่สุด!! ต้องมาดูด้วยตาตัวเองค่ะ สวยกว่าในรูปร้อยเท่า!
เมืองไทยมีที่สวยๆแบบนี้ด้วย ><


mission complete !!!!!!!!


ฝั่งขวาเป็นท่าเรือค่ะ มีคนไทยขึ้นมาด้วยเลยให้เค้าถ่ายรูปให้ค่ะ เกือบไม่ได้รูปแล้ว><
มีคนขึ้นมาตลอดค่ะ ก้อนหินก็แคบ รีบถ่ายรีบออกมาค่ะ คนอื่นต่อคิวอยู่ค่ะ ^^


จากนั้นก็เดินลงมา หิวน้ำแล้วค่ะ ร้อนมาก เหงื่อแตก ไม่ไหวแล้ว ลงมาหาอะไรเย็นๆดื่ม
เดินกลับไปที่ชายหาดค่ะ


"รอใครสักคน...มาพาฉันออกไป"


เดินมาสั่งโค้กค่ะ ขวดแก้วขวดเล็ก 45 บาท ><
แล้วก็มานั่งตรงบาร์


วิวตรงหน้าเรา


นั่งเขียนไดอารี่กับโปสการ์ดตรงนี้..

ตอนนี้เกือบบ่ายโมง เริ่มหิวแล้วค่ะ อาหารบนเกาะนางยวนแพง
อีกอย่างเราลืมเอาตั๋วเรือนอนกับเอเจนท์ที่เราซื้อตั๋วด้วยเมื่อวาน ก็เลยตัดสินใจกลับเกาะเต่ารอบบ่ายโมงครึ่งค่ะ


ขากลับมาขึ้นเรือ ก็มีแค่เราเป็นผู้โดยสารคนเดียวค่ะ ^^ Private สุด!
มาถึงท่าเรือเกาะเต่าบ่ายสอง ก็เลยเดินไปหาข้าวกินค่ะ เราเดินไปหาดทรายรี แล้วก็ฝากท้องไว้ที่ร้านดีดีฮัท เหมือนเดิม อร่อยค่ะ เราเดินไปสั่งกระเพราไก่+ไข่ดาว กับพนักงานผู้ชายเลยค่ะ

ตอนไปจ่ายตังค์ พี่ผู้หญิง (น่าจะเจ้าของร้าน)
เค้าถามว่ากะเพราาเผ็ดรึเปล่า เราบอกว่าไม่เผ็ดมากค่ะ อร่อยดี
เค้าบอกว่านึกว่าเราเป็นคนจีน/เกาหลี ก็เลยบอกแม่ครัวว่าอย่าทำเผ็ดมาก ><
มื้อนี้ 120 บาทค่ะ

บอกแล้วว่าไม่ค่อยมีคนไทยมาเที่ยว ตั้งแต่อยู่มา เราเจอนักท่องเที่ยวคนไทย 5 คนเองค่ะ ><


ทานเสร็จก็ไปนั่งเล่นที่หาดทรายรีค่ะ ตรงลานหินจปร. ตรงนี้จะมีร่มไม้แล้วก็ม้านั่ง เย็นสบายดี


เกาะเต่าพร็อบแน่นสุด! อิอิ


จนสี่โมงเกือบห้าโมงก็เดินไปส่งโปสการ์ดหน้าไปรษณีย์ค่ะ แล้วก็เดินไปเอาตั๋วเรือกับกระเป๋าแล้วก็เข้าไปอาบน้ำในโฮสเทล แล้วก็เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ชายหาด


อยู่ที่ชายหาดเกือบทุ่มนึงค่ะ เริ่มมืดก็เดินกลับมาแถวๆท่าเรือ หาข้าวกินค่ะ
จากนั้นก็ไปที่ท่าเรือ ถามว่าขึ้นเรือได้กี่โมง คนที่เรือไม่รู้ค่ะ คนละคนกับคนขายตั๋ว เค้าบอกให้มาใหม่ตอนสองทุ่ม เราก็เลยไปนั่งร้านกาแฟที่อยู่เยื้องๆกับเซเว่นค่ะ จะได้ชาร์จแบตโทรศัพท์ด้วย


นั่งอยู่ที่นี่ถึงสามทุ่มครึ่ง ร้านนี้ปิดสี่ทุ่มค่ะ ก็เลยเดินไปที่ท่าเรือเพื่อไปขึ้นเรือ วันนี้วันพุธ
เรือที่ออกจากเกาะเต่าจะเป็นของบริษัทพรทวีสินค่ะ

แง๊ บ๊ายบายเกาะเต่าจะกลับแล้วน๊า ><


มาที่เรือก็ขึ้นเรือได้เลยค่ะ เรามีตั๋วแลกไม่ต้องแลกอะไรอีก เตียงเราเบอร์ 1 ค่ะ


สภาพภายในห้องโดยสารพอๆกับของเกาะเจริญค่ะ สะอาด แอร์เย็น แต่เตียงกว้างกว่าค่ะ
แล้วก็ปลั๊กไฟเยอะกว่าค่ะ ( แต่ไม่เห็นเสื้อชูชีพ >< )


ไม่น่ากลัวค่ะ พอใกล้ๆห้าทุ่มคนจะเริ่มทยอยมาค่ะ ไม่เหงาแน่นอน มีเพื่อนเยอะเลย
แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องบ๊ายบายเกาะเต่า เรือออกห้าทุ่มค่ะ เดี๋ยวกลับมาเที่ยวใหม่ค่า ^^


#DAY4

เรือออกตรงเวลาห้าทุ่มตรงค่ะ แล้วก็หลับยาวเลย ตื่นมาอีกทีตอนเ้คาเปิดไฟ เรือมาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือ ตอนนี้เพิ่งตีห้าค่ะ เดินลงมาจากเรือจะมีรถสองแถวมารับค่ะ โทรไปที่ Salsa Hostel ตอนตีห้า ไม่มีคนรับค่ะ ก็เลยจะไปตั้งหลักที่สถานีรถไฟก่อน ของเราบอกไปลงที่สถานีรถไฟค่ะ 50 บาท

รอรถออก มีฝรั่งขึ้นมาด้วยสองคน


นั่งมาไม่ถึง 20 นาที ก็มาถึงสถานีรถไฟ โทรไปที่โฮสเทลอีกรอบ มีคนรับ เราก็เลยนั่งวินต่อไปอีก 20 บาทค่ะ ไปนอนพัก เป็น Day use ค่ะ ออกตอนเที่ยง เพราะว่ารถไฟออกเวลา 12.46 น.
คิดราคา 150 บาท ค่ะเราเอาไว้นอนพักกับอาบน้ำ

ตื่นมาเกือบสิบโมงกว่าๆ ก็ไปอาบน้ำ ชาร์จแบตโทรศัพท์แล้วก็ออกมาตอนเที่ยงค่ะ แวะซื้อข้าวที่เซเว่น แล้วก็มานั่งทานที่สถานีรถไฟ


นั่งรอเวลา รถไฟก็มาค่ะ


รายละเอียดการเดินทางของเรา จะมาถึงหัวลำโพงเกือบสองทุ่ม


ขึ้นมาที่โบกี้ที่สองค่ะ แต่หาที่นั่ง 54 ไม่เจอเลยกระเถิบไปตู้แรก พี่พนักงานใจดีถามว่านั่งตรงไหน เราบอก 54 เค้าก็เลยให้เดินมาข้างหน้า ได้นั่งตรงนี้ โบกี้นี้กระจกใสค่ะ จะได้ดูวิวชัดๆ^^


รถไฟออกแล้ว บ๊ายบายชุมพร
มีอาหารมาเสิร์ฟค่ะ เราเพิ่งทานไปเมื้อกี๊ก็เลยไม่ได้กินอะไรมาก

ระหว่างที่ทานก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋ว เค้าบอกว่าเรานั่งผิดต้องไปนั่งโบกี้ที่สองค่ะ ฮ่าๆๆ เลยบอกว่าขอกินเสร็จก่อนค่อยย้ายที่ค่ะ แหะๆ ><

ทานเสร็จก็ทำการย้ายที่ โบกี้ที่สอง ได้นั่งตรงนี้ แง๊! กระจกก็ไม่ใส แถมฝั่งนี้ก็โดนแดดอีก ><


นั่งมาเรื่อยๆ บ่ายๆก็มีขนมมาแจกค่ะ


ระหว่างทางช่วงประจวบก่อนถึงหัวหิน ถ้านั่งจากใต้เข้ากรุงเทพ นั่งฝั่งขวาจะได้ดูวิวทะเลประจวบด้วยค่ะ
สวยม๊าก >< ไม่ได้ถ่ายรูป นั่งคนละฝั่งค่ะ
แล้วก็มาถึงหัวหิน เกือบสี่โมงเย็น คิดถึงหัวหินจัง ^^ อยากแวะค้างที่นี่สักคืน ^^

(เดือนพฤศจิกายน เราได้ไปชิวที่หัวหินแล้วค่ะ ^___^
>> ทริป :: นั่งรถไฟ (ไม่ฟรี) ไปชิวที่หัวหิน >> https://journeyofarrowinthai.blogspot.com/2017/12/2017.html )

อันนี้ถ่ายจากในห้องน้ำคะ ห้องน้ำในรถไฟจะเปิดหน้าต่างค่ะ ฮี่ๆๆ


เย็นๆเริ่มหิวค่ะ มีก๋วยเตี๋ยวแห้งขายด้วย จัดมา 1 กล่องค่ะ 20 บาท อร่อยม๊าก ^^


แล้วก็มาถึงหัวลำโพงเกือบสองทุ่มค่ะ เลทประมาณ 10 นาที

กลับสู่จุดเริ่มต้น
กลับสู่โลกความจริงอันโหดร้าย #ฮ่า


จบทริปเกาะเต่าชิคๆ อย่างปลอดภัยค่ะทุกคน ^^


สำหรับการเดินทางในทริปนี้ เราได้อะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ

อย่างแรกคือ ก้าวผ่านความกลัวของตัวเอง #ไปเกาะเต่า #ผู้หญิงคนเดียว #นั่งรถไฟ #ต่อเรือนอน
ได้ไปในสถานที่ใหม่ๆ #เกาะเต่าครั้งแรก #ชุมพรครั้งแรกของเรา
ได้เจอคนใหม่ๆ #เจ้าของโฮสเทลที่เกาะเต่าเป็นคนเนเธอแลนด์ #รูมเมทเราที่มาจากลอนดอน
#ฝรั่งที่โฮสเทลที่ชวนเราคุยมาจกสวิส
#แหม่มฝรั่งที่เป็นคนสก็อตแลนด์ #คุณลุงที่เป็นคนขับเรือพาเราไปเกาะนางยวน
และนักท่องเที่ยว คนท้องถิ่นคนอื่นๆที่เรายิ้มให้ ที่เราชวนคุย ที่เราเดินสวนกัน^^
ได้รู้จักความอดทนในการนั่งรถไฟ 6 ชั่วโมงกว่าๆ แถมต้องรอเวลาต่อเรือนอนอีก เรือนอนก็ต้องใช้เวลาอีก 6 ชั๋วโมง รวมเกืแบ 13 ชั่วโมง ไม่นับเวลารอเรือออก
กว่าเราจะมาถึง#เกาะเต่า ที่แสนสวยงามแห่งนี้ : )
และอีกอย่างนึงเลยคือได้หายจาก"ไข้หวัดใหญ่"เป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ฮี่ๆๆ #เพราะว่าได้ไปเที่ยว ^^

สรุปค่าใช่จ่าย(คร่าวๆ) 4 วัน 3 คืน

#DAY1

ค่ารถไฟไป-กลับ 510X2 = 1020
KFC 80
เรือนอน+ค่าอาบน้ำ  470
ข้าวเย็น 50

#DAY2
Koh Tao Central hostel  340
ข้าวเที่ยง 145
แอบเปิ้ลปั่น 40
ตั๋วเรือนอนขากลับ 500
ขนมเซเว่น 70
ผัดไท 100

#DAY3

ไก่ทอด+น้ำเปล่า 70
ค่าเรือไปเกาะนางยวน 230
โค้ก 45
ข้าวเที่ยง 120
ข้าวเย็น 70
ชาเขียว 60

#DAY4

รถสองแถวท่าเรือ - สถานีรถไฟ 50
ค่าวินไป Salsa hostel 20
ค่า Hostel 150
ข้าวเที่ยง 50
ก๋วยเตี๋ยวแห้ง 20

รวมทั้งหมด 3,700 บาท รวมขนมนู่นนี่ น่าจะเกือบสี่พัน >< แพงกว่าไปมาเลเซีย4 วันอีกค่ะ ฮ่าๆ
*ถ้านั่งรถไฟฟรีอาจจะเซฟไปได้อีกพันนึงค่ะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะคะ ทั้งข้อมูลการเดินทางต่างๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า... สวัสดีค่ะ ^^

แวะไปพูดคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journey-of-Arrow-1161356250559423/


fert