กลับจากเที่ยวมา ก็มีรีวิวมาฝากเหมือนเช่นเคย เป็นทริปพักผ่อนชิวๆค่ะ อยากไปสูดไอทะเล
แถมตังค์ไม่ค่อยมี ไปไกลมากไม่ได้ ฮ่าๆ เลยไปหัวหินละกัน
อยากจะโดดลงจากรถไฟแวะเที่ยวตอนนั่งกลับมาจากทริปเกาะเต่าแล้วค่ะ
(รีวิว ผู้หญิงคนเดียวแบกเป้เที่ยวเกาะเต่าชิคๆ >> http://journeyofarrowinthai.blogspot.com/2017/03/blog-post.html?m=0 )
เดินทาง 29-30 พฤศจิกายน 2560
สรุปค่าใช้จ่าย ด้านล่างเลยนะคะ ^^
ตอนแรกว่าจะนั่งรถบัสจากสุวรรณภูมิไป เพราะเคยนั่งรถไฟชั้นสามสมัยเรียน แล้วเข็ดแล้วค่ะ ฮ่าๆ
แต่เช็ครอบแล้วรถมีแต่ตอนบ่าย เลยได้นั่งรถไฟไปหัวหิน ตอนนี้ไม่ฟรีแล้วนะคะ จะเป็นยังไงบ้าง
ไปดูกันค่ะ
(เผื่อใครไม่อยากนั่งรถไฟ/รถตู้ แต่สะดวกขึ้นรถที่สุวรรณภูมิ มีรถบัสจากสุวรรณภูมิไปหัวหินด้วยนะคะ
รีวิวนี้เลย >> http://journeyofarrowinthai.blogspot.com/2016/10/review.html?m=0 )
นั่ง MRT มาถึงเกือบเก้าโมงค่ะ ขบวน 261 ในตำนาน ไปที่เคาท์เตอร์เลยค่ะ ค่าโดยสารคนละ 44 บาท
ได้ตั๋วมาแล้ว ^^ รถออก 09.20 น. ชานชาลา 7
ขบวนนี้เลย ^^
รถไฟออกแล้ว วันธรรมดาคนไม่เยอะค่ะ มาดูกันว่าจะเลทมั้ย ในตั๋วบอกว่าไปถึงหัวหิน 13.35 น.
ผ่านนครปฐมเข้าราชบุรี มีของมาขาย ใกล้เที่ยงแล้วความหิวก็ครอบงำค่ะ
ขนมตาลก็มาจ้า ถุงละ 20 บาท
นั่งไปเรื่อย ตามด้วยก๋วยเตี๋ยวแห้งค่ะ 10 บาท ^^
ดูวิวกันมั่ง คล้ายๆวอลเปเปอร์หน้าจอคอมสุดคลาสสิค เขียวๆสบายตาค่ะ
ต้นตาลก็มี
และแล้วก็มาถึงหัวหิน!!! 13.40 น. ค่ะ เลท 5 นาทีถือว่ารับได้ ^^
รอบนี้ 4 ชั่วโมงก็ถือว่าไม่ได้ลำบากอะไร อาจจะเพราะอากาศดีด้วยค่ะ ไม่ได้ร้อนมาก
จากสถานีรถไฟเราเลือกที่จะเดินไปที่พักค่ะ รอบนี้พักที่ Jetty hostel อยู่ตรงสะพานปลาเลย เห็นวิวทะเล
เราจองเป็นห้องรวม คืนละ 390 บาท จองผ่าน booking.comค่ะ จากสถานีรถไฟเดินไปสะพานปลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกนอนรวม ก็มีแบบเป็นห้องส่วนตัวนะคะ
ถึงแล้ว
เข้ามาเจอคุณป้าที่เป็นเจ้าของ จัดการเรื่องเช็คอินให้ มีค่ามัดจำคีย์การ์ดด้วยนะคะ 500 บาท ระบบรักษาความปลอดภัยดีมากเลยค่ะ จะได้ผ้าเช็ดตัวมาด้วย ห้องเราอยู่ชั้น 4 นู่นเลย ไปดูห้องกันค่ะ
เปิดเข้ามาเป็นแบบนี้ หน้าต่างมองออกไปเป็นทะเลเลยค่ะ ^^
วิวจากหน้าต่างห้อง
เตียงของเรา
มีกระจก มีปลั๊กไฟ หลอดไฟส่วนตัว มีที่วางของ แล้วก็ไม้แขวนเสื้อให้ด้วยค่ะ สะดวกมาก
มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ สะอาด มีแชมพูกับสบู่เหลวให้ด้วยค่ะ
สำหรับสาวๆที่นี่มีไดร์เป่าผมให้ด้วยค่ะ ^^
วิวจากหน้าต่างห้องน้ำค่ะ มองออกไปเห็นทะเลเลย ^^
และเหตุผลหลักๆที่มาพักที่นี่คือ ดาดฟ้าค่ะ วิวดีมากไปดูกัน อยู่ด้านบนห้องที่เราพักนี่เอง
เปิดประตูมาจะเจอวิวนี้ ^^
มีคล้องกุญแจคู่รักด้วย
วิวฝั่งซ้ายมือ
วิวฝั่งขวามือ
เห็นโรงแรมฮิลตันด้วย
บนดาดฟ้ามีมุมครัวเล็กด้วยนะคะ ชา กาแฟ น้ำเปล่าในตู้เย็นเจาะทานได้เลย มีช้อน จาน ชามให้ด้วย
แต่ทานเสร็จต้องล้างให้ด้วยนะคะ ตู้เย็น ไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน ที่เปิดขวด มีให้ทุกอย่างเลย สะดวกมากๆ เหมือนมาพักบ้านเพื่อนเลย ^^
อ้าว! มีงูด้วย เราเห็นแวบแรกเกือบกรี๊ดแตก ฮ่า
หิวค่ะ ก๋วยเตี๋ยวแห้งได้ย่อยไปหมดแล้ว เลยเดินไปซื้อข้าวที่เซเว่นค่ะ อยู่ข้างๆโฮสเทลนี่เอง เดิน 1 นาทีถึง ^^ แล้วก็กลับมานั่งทาน รับลมตรงนี้
จากนั้นก็ลงไปพักผ่อนที่ห้องพักค่ะ เริ่มมืดก็เลย ไปเดินเล่นที่สะพานปลาค่ะ ชิวดี ^^
ออกมาข้างนอกอย่าลืมคีย์การ์ดนะคะ เพราะหลังหกโมงเย็น เจ้าของโฮสเทลไม่อยู่แล้วค่ะ
ถ้าลืมเดี๋ยวเข้าที่พักไม่ได้ ><
จากสะพานปลาก็เดินไปหาอะไรทานที่ตลาดโต้รุ่ง เราได้-ข้าวกะเพราไก่ เครื่องดื่ม และโรตีมาทานค่ะ ^^
ซื้อของแล้วก็เดินกลับมาที่โฮสเทล
เพิ่งสองทุ่ม ไม่มีคนเลยค่ะ เราเหมาหมดเลย ^^
บรรยากาศดีมากเลย เรานั่งอยู่ตรงนี้จนดึกก็ไปอาบน้ำนอน พรุ่งนี้เช้าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
แต่คืนนี้ฝนตกเป็นฝอยๆ เป็นพักๆ เลยไม่รู้ว่าจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นรึเปล่า
เช้าวันเงินเดือนออกค่ะ ทุกคน ฮ่าๆ เราขึ้นมาบนดาดฟ้าหกโมงกว่าๆ เจอนักท่องเที่ยวคนจีนมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนกัน คุยกันเพลินเลยค่ะ เช้านี้มีแค่เรากะเค้ามารอดูพระอาทิตย์ขึ้น
เมฆมาก แถมฝนตกด้วยเลยได้มาแค่นี้ ><
ฟ้าสางที่หัวหินค่ะคุณผู้ชม เช้าๆเราเลยเดินไปที่ชายหาดค่ะ เพราะเมื่อวานยังไม่ได้ไปเดินเลย
จากชายหาด เราก็เดินไปหาข้าวกินตอนเช้าค่ะ ว่าจะไปกินข้าวมันไก่ลมหวล
แต่เช้านี้ร้านไม่เปิดค่ะ
เลยเดินไปอีก เจออีกร้านนึงเลยซื้อข้าวมันไก่กลับมาทานที่โฮสเทลค่ะ
หัวหิน เช้าๆวันธรรมดา
ทานข้าวมันไก่เสร็จ ก็กลับพักผ่อน นอนเล่น อาบน้ำแล้ว เช็คเอาท์ตอนเที่ยงค่ะ ตอนเช็คเอาท์ ให้นำผ้าเช็ดตัวลงมาคืนด้วยค่ะ แล้วก็จะได้เงินค่ามัดจำคีย์การ์ดคืน
เราว่าจะกลับรถสมบัติทัวร์รอบบ่ายโมงครึ่ง
เลยขอนั่งเล่น กินแอปเปิ้ลที่ดาดฟ้าก่อนค่ะ
ออกมาจากโฮสเทลเที่ยงครึ่ง
มาเดินเล่นที่สะพานปลาก่อนกลับ
ใกล้บ่ายโมงแล้ว เลยนั่งวินไปขนส่งค่ะ เดินผ่านหน้าร้านข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ หน้าโรงแรมฮิลตัน
เลยจัดมา 1 ชุด ชุดละ 120 บาทค่ะ
เดินไปจนเจอพี่วิน ก็เลยนั่งมาที่ขนส่ง รีบไปซื้อตั๋วเลย รอบบ่ายโมงครึ่งเหลือที่เดียวค่ะ เกือบไปแล้ว ><
ค่ารถ 241 บาทค่ะ รถยังไม่ออก นั่งกินข้าวเหนียวมะม่วงรอ ^^
ทานเสร็จก็ไปขึ้นรถค่ะ รถจะจอดที่ BTS หมอชิตด้วยนะคะ ใครจะต่อรถก็ลงได้เลย ไม่ต้องเข้าไปที่ท่ารถของสมบัติทัวร์ที่วิภาวดี ภายในรถ เบาะกว้าง นั่งสบายมากค่ะ มีน้ำดื่มกับ ผ้าห่มให้ด้วย ใช้เวลาประมาณ
3 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึง BTS หมอชิตค่ะ จบทริปอย่างปลอดภัย แฮปปี้ ! ^^
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆนะคะ ^^
#Day1
MRT ไปหัวลำโพง 29
หมูทอด 20
ค่ารถไฟ 44
ขนมตาล 20
ก๋วยเตี๋ยวแห้ง 10
ค่าที่พัก Jetty hostel (ห้องรวม) 390
ข้าวเซเว่น 40
ชาเย็น 14
ยาไทลินอล (เราปวดหัวค่ะ) 13
แอปเปิ้ล 25
ข้าวเย็น 40
เครื่องดื่มเย็นๆ 32
โรตี 45
รวม 722 บาท
#Day2
ข้าวมันไก่ 40
น้ำองุ่น 18
แอปเปิ้ล 25
ค่ารถสมบัติทัวร์ 241
ค่าวินไปขนส่ง 50
ข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ 120
รวมทั้งทริป 1,216 บาท
*ถ้านั่งรถไฟกลับก็ประมาณ 1000 บาท เท่านั้นเองค่ะ ^^
ปลายปีนี้ใครหาที่พักผ่อนชิวๆ
งบไม่เยอะ มาเที่ยวหัวหินก็ได้นะคะ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ พบกันใหม่ทริปหน้า สำหรับวันนี้...สวัสดีค่ะ ^__^
แวะไปคุยกันได้ที่ >>> https://www.facebook.com/Journeyofarrow/